วันพุธที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2552
ขออวยพรให้เพื่อนๆ ของคุนทุกคนมีความสุข สุขภาพดี
|
วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2552
ไฟเขียวให้ยาต้านหวัดมรณะ ฟรี!
ไฟเขียวให้ยาต้านหวัดมรณะ ฟรี!
ความเคลื่อนไหวสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 (เอช 1 เอ็น 1) ที่กระทรวงสาธารณสุข เมื่อเวลา 13.50 น. วันที่ 30 ก.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงว่า ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับมาตรการแก้ปัญหาไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ใน 2 ส่วน คือ 1.เรื่องระบบการจ่ายยา ซึ่งในชั้นนี้ คณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญยังยืนยันว่าเงื่อนไข 8 ข้อในการที่จะให้ยาออกไปตามคลินิกยังจำเป็นต้องคงไว้ เพราะเท่าที่ทราบ กรณีที่มีการเสียชีวิตนั้นส่วนใหญ่เป็นเพราะเข้าถึงยาล่าช้า แต่ทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญยังเป็นห่วงเรื่องการดื้อยาหรือความไม่รัดกุมในการจ่ายยา 2.เมื่อมีแนวโน้มที่จะระบาดไปในชนบทมากขึ้น ระบบการทำงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จะต้องสามารถหยุดยั้งสกัดกั้นการระบาดเข้าไปในหมู่บ้านให้ได้ ต้องดูแลให้ได้ทั่วถึง
นายกฯชี้ไข้หวัดเริ่มทรงตัว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อที่ จ.นครราชสีมา แท้ง เพราะโรคดังกล่าว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการยืนยันข้อมูลนี้ เมื่อถามว่าขณะนี้จะยังไม่มีมาตรการอะไรออกมาเป็นพิเศษใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นมาตรการที่ทั่วโลกยอมรับว่าใช้กันตามปกติ เพียงแต่เราต้องไปเร่งว่าเรื่องการเข้าถึงยาในส่วนภูมิ ภาคกับการป้องกันระดับชนบท จะทำอย่างไร แต่ในพื้นที่เมืองนั้น เท่าที่ติดตามการเข้ารับรักษาพยาบาล เห็นว่าสถานการณ์ยังอยู่ในลักษณะที่ทรงตัวไม่ได้เป็นขาขึ้นอีกแล้ว
สั่งเร่งแจกโอเซลทามิเวียร์
นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข กล่าวภายหลังการเรียกประชุมร่วมกับตัวแทน กทม. และผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือการวางระบบการกระจายยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ให้ฟรีไปยังคลินิกเอกชนที่เข้าร่วมโครงการทั่วประเทศ ว่าเบื้องต้นจะให้ทางสำนักระบาด กรมควบคุมโรค ไปจัดทำใบสมัครให้กับคลินิกเข้าโครงการคลินิกจ่ายยาโอเซลทามิเวียร์ ซึ่งในต่างจังหวัดจะให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) แต่ละจังหวัดจัดประชุมแพทย์คลินิกเพื่อชี้แจงแนวทางการรักษาและการจ่ายยา พร้อมกับแจกจ่ายคู่มือผู้เชี่ยวชาญ ขณะที่กรุงเทพฯจะให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ดำเนินการ ซึ่งทั้งต่างจังหวัดและกรุงเทพฯ จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 2 ส.ค. นี้ และในที่ 3 ส.ค. จะเริ่มการกระจายยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ได้
ระวัง “เจล” ล้างมือติดไฟ
นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรม การอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงกรณีที่มีการส่งต่ออีเมล เตือนระวังเจลล้างมือติดไฟ โดยยอมรับว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นความจริง เนื่องจากเจลล้างมือมีส่วนผสมสำคัญคือแอลกอฮอล์ที่ใช้ล้างแผลทั่วไป ที่นอกจากมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรค และยังสามารถติดไฟได้ง่าย ดังนั้นเจลล้างมือจึงติดไฟได้ง่ายเช่นกัน หากถูกสะเก็ดหรือเปลวไฟ โดยเฉพาะในผู้สูบบุหรี่ ทั้งนี้ผู้ที่ใช้เจลล้างมือหลังชโลมเปียกทั่วมือแล้วจึงควรรอให้แห้งก่อน ซึ่งใช้เวลาเพียงครึ่งนาทีแอลกอฮอล์ก็จะระเหยไป และ หลังจากที่แห้งแล้วก็ไม่เป็นอันตรายใด ๆ
“ปกติการล้างมือที่ดี ควรล้างด้วยน้ำและสบู่ดีที่สุด แต่หากในกรณีไม่สะดวกจึงควรใช้เจล ล้างมือแทน ส่วนเจลล้างมือปลอม ผู้ใช้เจลล้างมือปลอมก็เช่นกันก็ควรระวังเพราะเจลล้างมือปลอมเพียงแต่ไม่ผ่านการขึ้นทะเบียนอย. เท่านั้น ซึ่งก็ยังมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อยู่”
วอนอย่าตกใจแพทย์ดับ
ด้านนพ.เรวัต วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยถึงกรณีที่มีอาจารย์แพทย์ที่ จ.เชียงใหม่เสียชีวิตจากโรคหวัด 2009 ว่าตนรู้จักนายแพทย์ท่านนี้เป็นการส่วนตัว ซึ่งปัจจุบันท่านมีอายุ 57 ปี และป่วยด้วยโรคประจำตัวหลายโรค ทั้งโรค ตับแข็ง โรคไตวายเรื้อรัง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และเมื่อติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ส่งผลให้ภาวะโรครุนแรง อาการทรุดหนัก และเสียชีวิตด้วยหัวใจล้มเหลว ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ยังได้เข้ารักษาตัวด้วยโรคท้องร่วงรุนแรง การเสีย ชีวิตของแพทย์ท่านนี้ คงไม่ทำให้ประชาชนตื่นตระหนก เพราะท่านอยู่ในกลุ่มเสี่ยงอยู่แล้ว มี โรคเรื้อรังมากมาหลายปีแล้ว และลาออกไปเป็นอาจารย์แพทย์ ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานเพิ่มเติมว่ามีแพทย์ หรือบุคลากรสาธารณสุขติดเชื้อ แต่ทางกรมการแพทย์ได้กำชับให้ทุกคนระมัดระวังและป้องกันตนเอง โดยใช้หน้ากากอนามัยป้องกันในระหว่างปฏิบัติหน้าที่รักษาผู้ป่วย
สาวท้องอีก 4 รายยังอยู่รพ.
นพ.เรวัต ยังได้กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานยืนยันว่า หญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จะเสี่ยงต่อภาวะโรครุนแรงถึงคนทั่วไป 4 เท่าว่า เรื่องนี้ตนได้กำชับทุกโรงพยาบาลในสังกัดกรมการแพทย์แล้วว่า หากมีหญิงตั้งครรภ์มารักษาที่ต้องให้สวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการรับเชื้อและต้องดูแลเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามจากรายงานหญิงตั้งครรภ์ที่ป่วย และรับเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผู้ป่วยหนัก มีทั้งหมด 8 ราย เสียชีวิต 3 ราย และยังรักษาตัวในขณะนี้ 4 ราย ส่วนความคืบหน้าอาการเด็ก 2 เดือน ที่เข้ารักษาตัวที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ผลจากห้องปฏิบัติการยืนยันแล้วว่า ไม่ได้ป่วยด้วยหวัด 2009 อย่างไรก็ตามขณะนี้มีผู้ป่วยเด็กที่ยังคงรักษาที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี 12 ราย
ติดตั้งเครื่องยูวีฆ่าเชื้อโรค
อธิบดีกรมการแพทย์ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่ทางสถาบันโรคทรวงอกสามารถผลิตเครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศด้วยแสงยูวี (อัลตราไวโอเลต) ภายในโรงพยาบาลว่า ที่ผ่านมาทางสถาบันโรคทรวง อกได้นำเครื่องฆ่าเชื้อด้วยยูวีมาติดทดลองใช้ใน โรงพยาบาลตนเอง พบว่าได้ผลที่ดี ทำให้เชื้อ โรคในอากาศลดลง จึงได้มีการติดตั้งเพิ่มเติม นอกจากนี้จากประสิทธิภาพของเครื่องนี้ ตนจึงได้สั่ง การให้ผลิตเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้สถาบันโรคทรวงอก มีทั้งสิ้น 12 เครื่องแล้ว จึงสั่งให้ผลิตเพิ่มเป็นจำนวนร้อยเครื่องเพื่อให้นำไปติดตั้งยังโรงพยาบาลอื่น ๆ ด้วย
ยอดตายขยับ 71 โคม่า 7
มีรายงานข่าวจากข้อมูลของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.-29 ก.ค.ที่ผ่านมา ประเทศไทยพบผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 65 ราย ใน 27 จังหวัด โดยที่ กทม. ยังเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อแหล่งใหญ่ เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตมากที่สุด 19 ราย ตามมาด้วย จ.ราชบุรี 6 ราย และจ.ชลบุรี 4 ราย ฯลฯ ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นแม่บ้านถึง 20 ราย รองลงมาเป็นผู้ใช้แรงงาน/พนักงานประจำ 15 ราย และเกษตรกร 9 ราย สำหรับอัตราการป่วยตายพบมากที่สุดในกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยผู้เสียชีวิตเมื่อแรกรับพบว่า จะมีไข้สูงเกิน 37.8 องศาเซลเซียส ผลการตรวจนับเม็ดเลือดมีเม็ดเลือดขาวต่ำ
อย่างไรก็ดีมีรายงานว่า หลังจากทางกระทรวงสาธารณสุข ได้แถลงตัวเลขผู้เสียชีวิตประจำสัปดาห์ไปเมื่อวันพุธที่ 29 ก.ค. ล่าสุดผลตรวจผู้เสียชีวิตยืนยันอีก 6 รายทำให้ยอดตายวันนี้เพิ่มเป็น 71 ราย และยังมีผู้ป่วยอาการโคม่า นอนอยู่ใน รพ.อีก 7 ราย
ทำคู่มือแจกหญิงตั้งครรภ์
รศ. (พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้เชี่ยวชาญ กรมการแพทย์ อนุกรรมการการแพทย์และสาธารณสุข กล่าวว่า ปัจจุบันหญิงตั้งครรภ์ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงต่ออาการรุนแรงจากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ขณะนี้แนวทางในการรักษาหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่คือ การให้ยาต้านไวรัสทันทีหลังจากที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล อย่างไรก็ตามคณะทำงานของกระทรวงสาธารณสุขกำลังเขียนร่างแนวทางการรักษาหญิงตั้งครรภ์เพื่อเป็นข้อแนะนำในการปฏิบัติสำหรับแพทย์ให้การรักษาหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ อย่างเช่น การดูแลแม่และเด็ก ข้อปฏิบัติในการให้ลูกดื่มนมแม่ และการให้ลูกแยกออกจากแม่ที่ติดเชื้อหลังจากการคลอด เนื่องจากทารกเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย รวมทั้งการทำคลอดเด็กว่าจะผ่าคลอดหรือคลอดธรรมชาติ โดยให้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแพทย์
สร้างโรงงานวัคซีนที่สระบุรี
นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผอ.องค์การเภสัช กรรม (อภ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่และไข้หวัดนก ในพื้นที่ ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ใช้งบประมาณ จำนวน 1,411.7 ล้านบาท โดยกระทรวงสาธารณ สุขได้เสนอของบประมาณดังกล่าว และได้รับความเห็นชอบจาก ครม.เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 50 ว่าเมื่อวันที่ 17 ก.ค. ที่ผ่านมามีผู้ยื่นซองเอกสารทางด้านเทคนิคเพียงรายเดียว คือ บริษัทเอ็ม แอนด์ ดับเบิลยู แซนเดอร์ (ไทย) ซึ่งคณะกรรม การประกวดราคาฯ ได้พิจารณาเอกสารทางเทคนิคและราคาเรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็จะรายงานให้สำนักงบประมาณได้รับทราบถึงความคืบหน้าของโครงการฯ ทั้งนี้เพื่อจะได้จัดสรรงบประมาณให้กับ อภ.ดำเนินการก่อสร้างต่อไป
“นพ.ธีระวัฒน์”อัดนักการเมือง
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ผอ.ศูนย์ความร่วมมือองค์การอนา มัยโลก กล่าวว่า ประเทศไทยพลาดโอกาสทองมานานเกือบ 3 เดือน ตั้งแต่เริ่มมีผู้ป่วยรายแรก ที่กระทรวงสาธารณสุขให้ข่าวว่าไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ไม่ต่างจากไข้หวัดธรรมดาหายเองได้ ทำให้พลาดโอกาสเตรียมการให้ความรู้ประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์ล่วงหน้า และเมื่อเกิดมีผู้เสียชีวิตก็พยายามชี้ว่าการตายในคนอายุน้อยวัยทำงานนั้นเป็นเพราะมีโรคประจำตัว แต่ในที่สุดก็ต้องยอมรับว่าใน 65 ราย มี 24 รายที่ไม่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงและไม่มีโรคประจำตัว เมื่อไหร่สาธารณสุข ประเทศไทยจะหยุดใช้นักการเมือง ข้าราชการการเมืองสอนวิชาแพทย์เสียที จะได้ไม่มีแพทย์หรือนักวิชาการมาเที่ยวยุ่งเสนอนั่นเสนอนี่ไม่ตรงกับท่านให้น่ารำคาญ
ยอดตายเมืองกรุง 19 ศพ
ที่ศาลาว่าการ กทม. พญ.มาลินี สุขเวชช วรกิจ รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมตรวจและติดตามผลการแพร่ระบาดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในพื้นที่ ว่า จากรายงานของกองควบคุมโรค สำนักอนามัย แจ้งยอดผู้ป่วยที่ยืนยันการติดเชื้อ ตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย.-29 ก.ค. พบว่ามีผู้ป่วย 3,380 ราย หรือร้อยละ 30 ของจำนวนผู้ป่วยทั่วประเทศพบผู้ป่วยที่เสียชีวิตมากที่สุดใน 4 เขต ได้แก่ 1.เขตดุสิต 2.เขตราชเทวี 3.เขตวังทองหลาง และ 4.เขตสวนหลวง และล่าสุดมีผู้ที่เสียชีวิตรวม 19 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.56 ทั้งนี้ยังมีผู้ป่วยจำนวน 542 รายที่อยู่ระหว่างการรักษาในรพ. สังกัด กทม.
สาวโคราชป่วยแท้งลูกแล้ว
ด้านความเคลื่อนไหวในพื้นที่ต่างจังหวัด ที่ จ.นครราชสีมา นพ.วีรศักดิ์ เกียรติผดุงกุล รอง ผอ.รพ.มหาราชนครราชสีมา เปิดเผยว่า หญิงสาววัยรุ่นอายุ 15 ปี ภูมิลำเนาอยู่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ที่กำลังตั้งครรภ์อ่อน ๆ 2 เดือน มีอาการลักษณะคล้ายติดเชื้อไข้หวัดใหญ่นั้น เข้ามารักษาตัวเป็นวันที่ 10 แล้ว ล่าสุดหญิงสาว รายนี้ประสบภาวะแท้งลูกเนื่องจากสภาพร่างกายอ่อนแอ ไม่มีภูมิต้านทานโรค ทำให้เด็กในครรภ์ทนต่อสภาพร่างกายของแม่ไม่ไหว โดยผู้ป่วยไม่มีอาการตกเลือดแต่อย่างใด แต่อาการโดยรวมแล้วยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากมีอาการปอดบวมแทรกซ้อน แพทย์ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด
ขอนแก่นเดินหน้ารณรงค์
ขณะที่นพ.วีระพันธ์ สุพรรณไชยมาตย์ ผอ.รพ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า จังหวัดขอนแก่นพบผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 รายแรกเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา ปัจจุบันพบผู้ป่วยทั้งสิ้น 44 คน เป็นชาย 22 คน และ หญิง 22 คน พบว่าผู้ป่วยมีอายุตั้งแต่ 4 เดือน ถึง 91 ปี ขณะนี้จึงได้ตั้งวอร์รูม ขึ้นที่สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดขอนแก่น และเตรียมเดินหน้ารณรงค์ต่อเนื่อง ส่วนที่อาคารอเนกประสงค์ ศาลากลาง จ.อุดรธานี นพ.สัญชัย ปิยะพงษ์กุล นายแพทย์ สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมกันออกทำความสะอาดและให้บริการฉีดวัคซีนในพื้นที่ ส่วนยอดผู้ป่วยติดเชื้อในพื้นที่มี 165 ราย เสียชีวิต 2 ราย ยืนยันผลการตรวจแล้ว
ที่ห้องประชุมวัฒนาวิลเลจ รีสอร์ท อ.แม่สอด จ.ตาก นพ.พิเชษฐ์ บัญญัติ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตาก เป็นประธานการประชุม เชิงปฏิบัติการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับการระบาดใหญ่ของไข้หวัด 2009 ในพื้นที่ 5 อำเภอชายแดนไทย-พม่า (แม่สอด-แม่ระมาด-พบพระ-อุ้มผางและท่าสองยาง) โดยมีองค์กรผู้อพยพระหว่างประเทศ (International Organzition for Migration : IOM) ร่วมสนับสนุนประชุมด้วย
เมืองยะลายอดคนไข้พุ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศที่ รร.คณะราษฎรบำรุง อ.เมือง จ.ยะลา ว่าทางโรงเรียนได้ประกาศปิดการเรียนการสอนตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค.- 3 ส.ค. นี้ เพื่อทำความสะอาดอาคารเรียน และฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ส่วนที่รพ.ศูนย์ยะลา ยังคงมีประชาชนเดินทางมาตรวจสุขภาพเป็นจำนวนมาก ล่าสุดพบผู้ป่วยไข้หวัด 2009 ในพื้นที่แล้ว 55 ราย และยังมีผู้ที่ต้องเฝ้าระวังอีกเป็นจำนวนมาก ส่วนที่ จ.ตรัง รร.จุฬาภรณราชวิทยาลัยตรัง ประกาศ หยุดเรียน เป็นเวลา 2 วัน ให้ นร.จากต่างจังหวัดที่พักในหอพัก กว่า 600 คนเดินทางกลับบ้านเพื่อทำความสะอาดทั้งที่อาคารเรียนและหอพัก หลังพบมี นร.ชั้น ม.3 ติดเชื้อจากการเดินทางไปหาพ่อแม่ในช่วงวันหยุด
5 กลุ่มเสี่ยงที่ควรได้วัคซีน
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงวอชิง ตัน ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า คณะกรรมาธิการที่ปรึกษาว่าด้วยนโยบายการจัดฉีดวัคซีนคุ้มกันของศูนย์ควบคุมโรคติดต่อและป้องกันของสหรัฐ ได้มีข้อเสนอแนะภายหลังการประชุมหารือว่า กลุ่มเป้าหมาย 5 กลุ่มได้แก่ หญิงตั้งครรภ์, ผู้สัมผัสติดต่อกับเด็กทารกอายุต่ำกว่า 6 เดือนภายในครัวเรือน, เจ้าหน้าที่การแพทย์และสาธารณสุข, เด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปจนถึงวัย 24 ปี และ ผู้สูงอายุซึ่งไม่มีโรคประจำตัว ควรจะเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในจำนวนประชากร 160 ล้านคน แต่ก็ยอมรับว่า คงจะจัดให้ได้ไม่เพียงพอกับทุกคนได้ เพราะคาดว่าในเดือน ต.ค.นี้ สหรัฐจะได้วัคซีนเพียง 120 ล้านโด๊ส ซึ่งปกติหนึ่งคนจะต้องได้รับการฉีดวัคซีน 2 โด๊ส
สหรัฐยอดตายอันดับ 1
นอกจากนั้น รัฐบาลสหรัฐยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตเพราะไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แล้ว 302 ศพในสหรัฐอเมริกา เมื่อนับถึงวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นประเทศที่มีผู้เสีย ชีวิตเพราะไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 มากที่สุด ในโลก รองลงมาอันดับ 2 เป็น อาร์เจนตินา 165 ศพ อันดับ 3 เม็กซิโก 138 ศพ และชิลี 79 ศพ.
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)