กระดานสนทนาหมากแข้ง

วันพุธที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

รายงานการประชุมสัปดาห์ ครั้งที่ 3 / 2553-2554

รายงานการประชุมสัปดาห์
ครั้งที่ 3 / 2553-2554
วันอังคารที่ 20 กรกฎาคม 2553 เวลา 20.00 น. ณ
โรงแรมเจริญศรีแกรนด์ รอยัล ห้องเล่งมึ้ง

  1. รายนามผู้เข้าร่วมประชุม
    1. นย.สิริพงค์ อุเทนพิทักษ์กุล
    9. อน.นิพันธ์ สัจจะไพบูลย์
    2. นยล.อนันต์ ปัญญาวัน
    10. อน.อัครวัฒน์ ปุณณะนิธินนท์
    3. อน.ศรัณย์ ฉัตรเดชา
    11. อน.พิชิต เพิ่มวณิชกุล
    4. อน.สุวัฒน์ วิไลงาม
    12. รทร.บุญชัย จินต์นำโอฬาร
    5. รทร.เปรม ภักดีประยูรวงศ์
    13. รทร.โฮบิน อิม
    6. รทร.ยงยุทธ วัฒนธีรวุฒิ
    14. รทร.ณัฐพงศ์ รุจิระนันท์ชัย
    7. อน.เสรี แก่นแก้ว
    15. รทร.วรวิส เทศนาบุญ
    8. อน.สมเกียรติ ตั้งศิริอำนวย


รายชื่อแขก
1. นายประทวน เชิดพาณิชย์
2. นายประพนธ์ พันธ์ลี
3. อน.ศิรีน่า วาเดว
4. นส.สุชาดา สัจจะไพบูลย์
5. นส.ณภัทร ผิวงาม
6. นายนราธิป เทศนาบุญ


วาระที่ 1 กิจกรรมในรอบสัปดาห์


1. วันที่ 16 กรกฎาคม 2553 ท่านนายกสิริพงค์ อุเทนพิทักษ์กุล
และสมาชิกได้ไปร่วมงานสถาปนาโรตารีหนองคาย
2. วันที 17 กรกฎาคม 2553 ท่านนายกและมวลสมาชิก

วาระทีไ2 เลขานุการแจ้งข่าวสารประจำสัปดาห์
ได้่ ปร่วมงานสถาปนาสโมสรโรตารีเลย
- ได้รับหนังสือจากท่านผู้ว่าการภาค
ธงชัย ล้อตระกานนท์ ให้แจ้งการทำงาน
และแผนงานของสโมสรก่อนที่ผู้ว่า การภาค
จะมาเยี่ยมอย่างเป็นทางการ อย่างน้อย 15 วัน
- ได้รับสารแสดงความยินดี จากท่านนายกอุษา กาญจนศิริรัตน์
นายกสโมสรโรตารียโสธร
- หนังสือขอบคุณ จากหอการค้าที่สโมสรได้เข้าร่วมงานพิธีเปิด
ไทยเข้มแข็งที่ UD ทาวน์

วาระที่ 3 เหรัญญิกแถลงการเงิน
- รทร.เปรมได้แจ้งรายรับ – รายจ่าย ในงานสถาปนาสโมสรทั้ง 5
สโมสร ในวันที่ 7 กรกฎาคม 2553 ที่ผ่านมา ดังนี้
- รายรับรวมทั้ง 5 สโมสร 146200 บาท
- ค่าพิมพ์การ์ดเชิญครั้งที่ 1 เป็นเงิน 1500 บาท
- ค่าพิมพ์การ์ดเชิญครั้งที่ 2 เป็นเงิน 1000 บาท
- จ่ายค่าใบสำคัญรับ 201 บาท
- จ่ายค่าโต๊ะ 40 โต๊ะ 104000 บาท
- จ่ายค่าการแสดง 8000 บาท
- จ่ายค่าอาหารนักแสดง 2000 บาท
- ค่าส่งไปรษณี 3942 บาท
- ค่าช่อดอกไม้ 10 ช่อๆ ละ 100 บาท เป็นเงิน 3000
บาท
- ค่าป้ายไวนิล 2100 บาท
- ค่าเครื่องดื่ม 3840 บาท = รวมรายจ่ายทั้งหมด 129583 บาท
เงินคงเหลือ 16617 บาท
และคืนเงินสโมสรละ 3000 บาท
และยังมียอดคงเหลื่ออยู่ 1617 บาท


วาระที่ 4 กิจกรรมประธาน 4 ฝ่าย
็้ดเวสกดบนจขพ


ประธานฝ่ายบริการชุมชน
**************************
ประธานบริการระหว่างประเทศ
**************************
ประธานฝ่ายบำเพ็ญประโยชน์
**************************
ประธานบริการสโมสร
**************************

วาระที่ 3 UP DATE


- คุณประทวน เชิดพาณิชย์ จาก HOME 3
ได้มาร่วมประชุมและมาเป็นองค์ปาฐกในเหตุการณ์ ปล้นร้านทอง
ที่จังหวัดอุดรธานี ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2553
วาระพิเศษ
- ท่าน อน.ศิรีน่า วาเดว สโมสร BUSHNELL
ROTARYได้มาเยี่ยมสโมสรโรตารีหมากแข้ง
และได้มาเล่าประสบการณ์การใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ


********************
********************
( นส. พรทิวา แข็งแรง )
(
อน. ศรัณย์ ฉัตรเดชา )
เจ้าหน้าที่สโมสร
เลขานุการสโมสร

รายงานการประชุมสัปดาห์3.doc - ขับเคลื่อนโดย Google Documents

Analytics magkang Rotary Club 20100627-20100727 (รายงานการเข้าชมเว็บหมากแข้ง)




วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เรื่องของคนไทยที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก.....

สินค้าของ USA แต่..คนไทย เป็นอันดับ 1 ของโลก

www.agelG1.com 

คุณนิติ สว่างทรัพย์  ตำแหน่งสูงที่สุดในโลก

คณชนิดา - ณัฎฐ์รินทร์ บูรณะบุตร  รายได้สูงที่สุดในโลก

เข้า www.youtube.com หรือ www.google.com

พิมพ์ key word คำว่า Agel , นิติ สว่างทรัพย์    ทุกท่านจะได้เห็นความหัศจรรย์ ของคนไทย

สินค้า มี อย.ทุกรายการ และ ได้รับ อย.ไปทั่วโลก กว่า 60 ประเทศ

 

ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย ขยันถูกที่ ปีเดียวก็รวยได้

ถูกที่ ถูกเวลา ถูกทีม สำเร็จแน่นอน...

 

ธุรกิจเดียว ที่สามารถทำงานได้ทั่วโลก มีเวปสนับสนุนทุกภาษา.....


 

@@@คนไทยในต่างแดน@@@

ได้เปรียบมากสามารถเป็นต้นสายในต่างประเทศได้เลย

ปัจจุบัน มี คนไทยในต่างแดนเริ่มเข้ามาทำธุรกิจนี้แล้ว

เริ่มเปนต้นสาย...ด่วน .... Agel เปิดมาแล้ว 60 ประเทศ

 

Code เดียว สามารถมีทีมงานได้ทั่วโลก world wide Link 
เมื่อวันที่ 18 พฤษาคม เปิดเพิ่ที่ ประเทศอินโดนีเซีย

และกำลังจะไปอีกหลายๆ ประเทศ

 

@@@คุณแม่บ้าน@@@

สามารถหารายได้พิเศษ หรือ อาจเป็นรายได้หลัก

เพื่อเป็นหลักประกันให้เจ้าตัวน้อยของคุณและครอบครัวได้ในอนาคต

 

@@@นิสิต นักศึกษา@@@

สามารถหารายได้พิเศษ หรือ อาจเป็นรายได้หลัก

เพื่อเก็บไว้เป็นทุนการศึกษา หรือเก็บไว้ซื้อของใช้ส่วนตัว

 

 

เริ่มต้นเดียวนี้... ไม่มีเวลาที่จะปฏิเสธอีกต่อไปแล้ว

 www.agelG1.com

เอเจล จี 1 ดอทคอม

eEmail : wealthpack@hotmail.com

 

 

 

(ขออภัยหากเมล์ฉบับนี้รบกวนท่าน)

Sat, 17 Jul 2010 01:33:28 GMT

วันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

วันชาติของไทย

วันชาติของไทย คือ วันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช

ความเป็นมาของวันชาติต่างประเทศ



โดยทั่วไป “วันชาติ” มักจะหมายถึง วันเฉลิมฉลองที่ประเทศนั้นๆ ได้รับอิสรภาพ เป็นเอกราช หรือเป็นวันสถาปนาประเทศ รัฐ ราชวงศ์ วันพระราชสมภพของพระมหากษัตริย์ วันเกิดประมุขของรัฐ หรืออาจจะเป็นวันที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อื่นๆ แต่มักจะถือเป็นวันหยุดประจำของชาติ ซึ่ง “วันชาติ” ของแต่ละประเทศจะเป็นวันใด ก็ขึ้นอยู่กับการกำหนดของประเทศนั้นๆ เช่น ประเทศโมร็อกโก]] ตรงกับวันที่ 2 มีนาคม สหรัฐอเมริกา ตรงกับวันที่ 4 กรกฎาคม ฝรั่งเศสตรงกับวันที่ 14 กรกฎาคม อินโดนีเซียตรงกับวันที่ 17 สิงหาคมบราซิล]]ตรงกับวันที่ 7 กันยายน และเคนย่าตรงกับวันที่ 12 ธันวาคม เป็นต้น

“วันชาติ” ของประเทศต่างๆ ส่วนใหญ่จะมีเพียงวันเดียว แต่ก็มีบางประเทศเช่นกันที่มี “วันชาติ” มากกว่าหนึ่งวัน ทั้งนี้เพราะประเทศนั้นๆ อาจจะนับวันที่ได้รับเอกราชหรือวันที่ปลดแอกจากการเป็นอาณานิคม และวันที่มีการสถาปนาการปกครองขึ้นใหม่ ซึ่งอาจจะมิใช่วันเดียวกัน แต่เป็นวันสำคัญเสมือนวันชาติเท่าๆกัน เช่น ประเทศปากีสถาน จะมีวันชาติตรงกับวันที่ 23 มีนาคม ที่เขาเรียกว่า “Republic Day” และวันที่ 14 สิงหาคม เป็น “Independence Day” ส่วนฮังการี ก็มีถึง 3 วันคือ วันที่ 15 มีนาคม 20 สิงหาคม และ 23 ตุลาคม สำหรับจีน นอกจากจะมีวันชาติตรงกับวันที่ 1 ตุลาคม แล้ว ที่ฮ่องกง อันเป็นเขตปกครองพิเศษของจีน ที่มีขึ้นหลังจากอังกฤษ คืนเกาะ ฮ่องกง ให้จีนก็มีการเฉลิมฉลองวันที่ตรงกับวันสถาปนาการปกครองพิเศษนี้ขึ้น ในวันที่ 1 กรกฎาคม อีกด้วย

[แก้ไข] ความเป็นมาของวันชาติไทย



สำหรับประเทศไทย เราเคยได้มีการกำหนดให้วันที่ 24 มิถุนายนเป็น “วันชาติ”ของไทย ด้วยถือว่าวันที่ 24 มิถุนายน 2475 เป็นวันเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นการปกครองในระบอบรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย โดยได้มี ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง “วันชาติ” ลงวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2481 โดย พ.อ.พหลพลพยุหเสนา เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยนั้น และได้มีการเฉลิมฉลองวันชาติ 24 มิถุนายน ครั้งแรกในปีพ.ศ. 2482 ในสมัยจอมพลป. พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี

วันที่ 24 มิถุนายน เป็น “วันชาติ” ของไทยอยู่นานถึง 21 ปี ครั้น วันที่ 21 พฤษภาคม 2503 สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ได้มี ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ขึ้นใหม่อีกฉบับหนึ่ง เรื่อง ให้ถือวันพระราชสมภพเป็นวันเฉลิมฉลองของชาติไทย โดยให้เหตุผลว่า

ด้วยคณะรัฐมนตรีได้พิจารณาเห็นว่า ตามที่ได้กำหนดให้มีการเฉลิมฉลองวันชาติไทยในวันที่ 24 มิถุนายน นั้น ได้ปรากฏในภายหลังว่า มีข้อที่ไม่เหมาะสมหลายประการ ในด้านประชาชนและหนังสือพิมพ์ก็ได้เสนอแนะให้พิจารณาในเรื่องนี้หลายครั้งหลายคราว คณะรัฐมนตรีจึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นพิจารณา โดยมีพลตรีพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน

คณะกรรมการนี้ได้พิจารณาแล้ว เสนอความเห็นว่า ประเทศต่างๆได้เลือกถือวันใดวันหนึ่งที่มีความสำคัญเกี่ยวเนื่องกับชนในชาติต่างๆกัน โดยถือเอาวันประกาศเอกราช วันอิสรภาพ วันตั้งถิ่นฐาน วันสาธารณรัฐ วันสถาปนาพระราชวงศ์บ้าง ซึ่งไม่เหมือนกัน แต่ประเทศที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของชาติ โดยทั่วไปนั้น ได้ถือเอาวันพระราชสมภพของพระมหากษัตริย์เป็นวันเฉลิมฉลองของชาติ เช่น ประเทศอังกฤษ เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก สวีเดน ญี่ปุ่น ฯลฯ เป็นต้น

แม้ประเทศไทยเราเองก็ได้ถือเอาวัน[[พระราชสมภพเป็นวันเฉลิมฉลองของชาติไทยมาแล้ว เพิ่งจะมากำหนดเอาวันที่ 24 มิถุนายน เป็นวันชาติ เพิ่มขึ้นอีกวันหนึ่งในระยะหลังนี้เองคณะกรรมการจึงมีความเห็นว่า เพื่อให้เป็นไปตามขนบประเพณีของประเทศที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และเป็นหลักการสมัครสมานสามัคคีรวมจิตใจของบุคคลในชาติโดยทั่วกัน จึงสมควรจะถือเอาวันพระราชสมภพของพระมหากษัตริย์เป็นวันเฉลิมฉลองของชาติไทยต่อไป โดยยกเลิกวันชาติ ในวันที่ 24 มิถุนายนเสีย

ดังนั้น นับแต่ปี พ.ศ. 2503 ประเทศไทยจึงได้ถือเอาวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งตรงกับวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็น “วันชาติ” ของไทย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

[แก้ไข] กิจกรรมวันชาติ

ตามปกติ การจัดงาน “วันชาติ” ของประเทศต่างๆก็จะมีกิจกรรมและรูปแบบแตกต่างกันออกไป ส่วนใหญ่ก็มักจะมีการกล่าวสุนทรพจน์ การจัดขบวนพาเหรดเฉลิมฉลอง การจุดพลุดอกไม้ไฟอย่างเอิกเกริก รวมไปถึงการแสดงมหรสพต่างๆ เป็นต้น แต่ในประเทศไทย เนื่องจากวันชาติ เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา และวันพ่อแห่งชาติ ซึ่งมีกิจกรรมเฉลิมฉลองอยู่แล้ว กอปรกับประเทศไทยยังไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของใครมาก่อน และคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ก็คุ้นชินกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอย่างที่เห็นกันอยู่ปัจจุบัน

ดังนั้น “วันชาติ” ของเราจึงดูเหมือนไม่ค่อยมีความสำคัญเท่าใดนัก เพราะชาวไทยทุกหมู่เหล่าล้วนตัองการจัดกิจกรรมเพื่อถวายความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “พ่อหลวงของแผ่นดิน” มากกว่าประเด็นอื่น อย่างไรก็ดี หากเราจะระลึกว่าวันนี้ ก็เป็น “วันชาติ”ของไทยด้วย แล้วจัดกิจกรรมต่างๆที่จะแสดงให้เห็นว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจเพื่อ “ประเทศชาติ” ด้วยพระวิริยะอุตสาหะ และความเสียสละมาอย่างยาวนานเช่นไร ก็อาจจะทำให้ วันนี้ มีความหมายครบถ้วนสมบูรณ์ยิ่งขึ้น


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

- คุณอมรรัตน์ เทพกำปนาท กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ

- คอลัมน์รู้ไปโม้ด หนังสือพิมพ์ข่าวสด

- วิกิพีเดีย

ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต

ประเภทของหน้า: วันสำคัญ